สาเหตุที่มีปัญหาคนทำผิดในปัจจุบันมากขึ้น และหลักการทางพุทธศาสนาเพื่อการแก้ปัญหา |
ด้วยวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยที่เปลี่ยนไป จากเดิมมีชีวิตที่สงบเรียบง่าย เข้าวัดฟังธรรมกันเป็นประจำ ปัจจุบันกลายเป็นสังคมที่มีการแข่งขันสูงขึ้น ทุกคนต้องดิ้นรนในการใช้ชีวิต ทำให้ไม่มีเวลา และละเลยการเข้าวัด หรือฟังธรรมเพื่อพัฒนาจิตใจตนเอง เห็นความสำคัญของจริยธรรมลดลง เห็นแก่ความสุขและประโยชน์ในระยะสั้นของตนเองเป็นที่ตั้ง นำมาซึ่งปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมมากมาย เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาการทุจริต และปัญหาอาชญากรรมต่างๆเป็นต้น การที่เราตระหนักถึงปัญหา วิเคราะห์ถึงสาเหตุ และนำหลักธรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาปรับใช้ในชีวิต ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาโดยรวมของสังคมลงได้ ในที่นี้ผู้เขียนขอยกปัญหา ๒ เรื่องมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุ และหลักธรรมที่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหา ดังนี้ปัญหาการนอกใจ

สาเหตุของปัญหา
ด้วยวิถีชีวิตเปลี่ยนไป ทั้งผู้หญิงและผู้ชายทำงานนอกบ้านกันทั้งคู่ ทำให้ต่างก็พึ่งพาตนเองได้ มีรายได้ของตนเอง มีสังคมของตนเอง และมีเวลาด้วยกันน้อยลง จึงอาจทำให้ความสัมพันธ์ไม่แน่นแฟ้นเท่าที่ควร และอาจจะมีความคิดความเห็นที่แตกต่างกัน นำไปสู่การไม่เข้าใจกันและกันด้วยความที่คนในยุคปัจจุบันนี้ห่างไกลวัด ไกลธรรมมะ ทำให้คนให้ความสำคัญในเรื่องศีล ๕ และจริยธรรมลดลง ไม่เห็นโทษของการละเมิดศีล ๕ ไม่เห็นความสำคัญในการที่จะต้องซื่อสัตย์กับคู่ชีวิตของตนเอง คิดถึงเพียงความสุขฉาบฉวยในระยะสั้นๆ
นอกจากนี้ การที่คนไม่เข้าใจในธรรมชาติของชีวิต ว่าทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง หรือการที่เราบังคับทุกอย่างให้เป็นดังใจไม่ได้ ทำให้มีความอดทนน้อยในการปรับตัวในการใช้ชีวิตคู่ และเกิดความเบื่อหน่ายได้ง่าย
หลักธรรมในพุทธศาสนาที่สามารถช่วยแก้ปัญหา
ทิศ ๖ – การเข้าใจถึงหน้าที่ที่เราควรกระทำต่อบุคคลรอบข้าง จะทำให้เราสามารถรักษาความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างเราได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะมีเวลาน้อยลง แต่หากได้ใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันอย่างเหมาะสมและมีคุณค่า ก็สามารถทำให้เรารักษาความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลต่างรอบข้างเรา ซึ่งรวมถึงคู่ชีวิตได้เป็นอย่างดีศีล ๕ – การที่คนเห็นความสำคัญ ประโยชน์ และอานิสงส์ของศีล ๕ ย่อมทำให้บุคคลนั้นมีชีวิตที่เป็นปกติสุข การเห็นโทษของการละเมิดศีล ๕ ก็ทำให้แทบจะไม่ต้องใช้ความข่มใจหรืออดทนในการรักษาศีลเลย บุคคลจะมีหิริโอตัปปะไปโดยปริยาย การนอกใจนอกจากจะเป็นการเบียดเบียนและทำให้ผู้อื่นทุกข์ใจ ยังนำไปสู่การผิดศีลข้ออื่นๆอีก เช่น การพูดเท็จเพื่อปกปิดความผิดนั่นเอง
กฎไตรลักษณ์ – การเข้าใจในกฎไตรลักษณ์ (อนิจจัง – ไม่เที่ยง, ทุกขัง – ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้, อนัตตา
– ไม่ใช่ตัวตน บังคับไม่ได้)
นอกจากจะเป็นประโยชน์อันสูงสุดในการพัฒนาตนเพื่อพ้นทุกข์แล้ว
ยังเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตอย่างเข้าใจชีวิตอีกด้วย
การเข้าใจว่าทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง
และเข้าใจว่าเราไม่สามารถบังคับทุกอย่างให้เป็นดังใจได้
จะทำให้เราสามารถปล่อยวางกับความอึดอัดใจที่เกิดขึ้นในการใช้ชีวิตคู่ได้
ไม่นำมาซึ่งการเบื่อหน่ายและอยากนอกใจ
ปัญหาการคดโกง ไม่ซื่อสัตย์

สาเหตุของปัญหา
สาเหตุหลักของการคดโกงต่างๆ เกิดจากความโลภนั่นเอง เกิดจากการที่ต้องการอะไรที่เกินกว่ามาตรฐานปกติ ซึ่งการกระทำโดยถูกต้องตามระบบจะไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ จึงนำมาซึ่งการปฏิบัติที่คดโกงและไม่ซื่อสัตย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ โดยไม่สนใจความถูกต้องนั่นเองเมื่อมีความโลภบังตา และไม่มีสติควบคุม ปัญญาก็จะไม่เกิด ทำให้ไม่สนใจในเรื่องผลของกรรม ไม่เชื่อในบุญและบาป คิดแต่ผลประโยชน์ที่ต้องการตรงหน้า และทำผิดอย่างไรก็ได้เพื่อให้ได้มา จนลืมนึกถึงกฎแห่งกรรม ว่าซักวันก็จะต้องชดใช้ในกรรมเหล่านั้นที่ได้ทำผิดไป โดยที่ผลประโยชน์ที่ได้คดโกงมาทีแรก ก็ไม่ได้คุ้มค่ากับผลแห่งกรรมที่จะต้องรับเลย
นอกจากนี้เมื่อความโลภ รวมด้วยความหลง ก็ทำให้บางคนลืมไปว่า เราทุกคนใช้ชีวิตไปแล้วสุดท้ายก็ต้องตายทรัพย์สมบัติที่จะคดโกงมามากเท่า ไหร่ ก็ใช้ได้มากที่สุดเพียงชาตินี้เท่านั้น ดังที่เราจะเคยเห็นบางคน ซึ่งมีทรัพย์สมบัติมากพอที่จะใช้ไปตลอดชีวิตก็ไม่หมด แต่ก็ยังทำการคดโกงเพื่อให้ได้สมบัติมามากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ จนอาจจะไม่ได้คิดว่าจะเอาสมบัติไปใช้ทำอะไร เมื่อไหร่ คิดเพียงแต่ว่า ทำยังไงให้ได้มามากที่สุดเท่านั้น
หลักธรรมในพุทธศาสนาที่สามารถช่วยแก้ปัญหา
มัชฌิมาปฏิปทา – หลักมัชฌิมาปฏิปทา เป็นหลักตั้งต้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ในการพัฒนามาเป็นหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินชีวิตด้วยทางสายกลาง จะทำให้ไม่มีใครเป็นคนจน ไม่มีใครเป็นคนล้มละลาย มีชีวิตที่เป็นปกติสุข มีเวลา และความสงบพอที่จะใช้ไปเพื่อการพัฒนาจิตใจตนเองมากยิ่งขึ้น การใช้หลักมัชฌิมาปฏิปทาเป็นหลักยึดในการดำรงชีวิต จะช่วยให้เราสามารถลดความโลภลงได้มาก เนื่องจากแท้จริงแล้ว ชีวิตคนเราต้องการเพียงปัจจัย ๔ เพื่อการอยู่รอดเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนสรรหาสิ่งใดที่เกินจำเป็นเลยกฏแห่งกรรม - การเข้าใจในเรื่องของกฎแห่งกรรม ซึ่งก็คือผลจากการกระทำของเรา หรือเข้าใจในบุญและบาป จะทำให้เราสามารถมีสติไตร่ตรองก่อนจะทำการใดๆได้เป็นอย่างดี เช่น ก่อนจะพูดโกหก หรือทำการคดโกงใดๆ หากมีสติพิจารณาได้ถึงผลของการกระทำที่จะตามมา ก็จะไม่เป็นเรื่องยากที่จะข่มใจไม่ให้ทำผิด เพราะทราบและเข้าใจว่า ผลกรรมที่จะเกิดขึ้น ไม่คุ้มกับสิ่งฉาบฉวยชั่วคราวที่จะคดโกงมาได้เลย
มรณานุสติ – การพิจารณาถึงความตายอย่างเนืองๆ จะช่วยให้มีสติในการดำเนินชีวิต พิจารณาได้ว่า ชีวิตที่เหลืออยู่ควรใช้อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด ทรัพย์สมบัตินอกกายมีมากมายอย่างไรก็ใช้ได้เพียงชาตินี้เท่านั้น คดโกงไปได้มากเท่าไหร่ ก็ทำให้ต้องลำบากในการชดใช้ผลของกรรมในอนาคตมากขึ้นเท่านั้น แต่หากพัฒนาอริยทรัพย์ (โลกุตระปัญญา, สัมมาทิฏฐิ, บุญบารมี เป็นต้น) ควบคู่ไปกับการเจริญสติเตรียมตัวตายก่อนตาย ก็จะเป็นประโยชน์แก่ตนเองอย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น